วิธีเช็คกระเป๋าแท้ มาดูกันว่าแต่ละแบรนด์มีวิธีการจัดผิดกระเป๋าปลอมยังไง
วิธีเช็คกระเป๋าแท้ ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนม ถือว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตขึ้นทุกปี อาจจะเพราะคุณภาพ ของกระเป๋าแบรนด์ หรือดีไซน์ที่สวยหรู ทำให้มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม อาทิ บรรดาหนุ่มสาวไฮโซ ดารา ผู้ประกอบการ หรือ แม้แต่นักธุรกิจ ที่มีกำลังซื้อได้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุนี้เอง จึงเกิดเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพได้เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ทำให้เหยื่อจำนวนไม่น้อยที่โดนหลอกให้ซื้อของปลอมในราคาของจริง
สำหรับใครที่กำลังอยากได้ กระเป๋าแบรนด์เนม สุดหรูในฝันสักใบ แต่ก็ยังกลัวว่าจะได้กระเป๋าปลอมมา เพราะถ้าจะฝากหิ้วของนอกเข้ามา ตัวเราเองก็ไม่รู้ว่า แม้ค้าจะเอาของก็อปมาตบตาเรารึเปล่า หรือถ้าหากกรณีซื้อกระเป๋ามือสองมา ก็ไม่สามารถวางใจได้อีก ว่าจะเป็นของแท้หรือของปลอมกันแน่ ด้วยความกังวลใจแบบนี้ ก็ทำให้บางคนถอดใจกันไปบ้าง
ด้วยเหตุนี้เอง หากว่าเราต้องการที่จะครอบครองกระเป๋าแบรนด์เนมสักใบ ก่อนอื่นเลยเราควรที่จะต้องศึกษา วิธีการจับผิดกระเป๋าปลอม กันก่อน ซึ่งในวันนี้ทางเรา hi-endbrands ก็ได้รวบรวมวิธีการเช็คกระเป๋า กับ 5 จุดจากกระเป๋าแบรนด์เนมดัง อย่าง CHANEL, LOUIS VUITTON, HERMÈS, PRADA, GUCCI ว่าของแท้ เขามีลักษณะอย่างไรบ้าง แถมมีจุดไหนบ้างที่ควรจะดู ซึ่งถ้าหากมีจุดผิดไป เราควรที่จะต้องทำการคืนด่วนจี๋
สอนดูกระเป๋าแท้-ปลอม ! วิธีดูกระเป๋าแบรนด์เนม ดูอย่างไร ของแท้หรือของก็อป
CHANEL
จุดที่ 1 โลโก้ตัว C ไขว้กัน
จุดที่มองแว่บเดียวรู้ทันที คือโลโก้อักษร C ตัว C ข้างขวาจะต้องทับกับด้านบนของ C ข้างซ้าย ส่วนตัว C ข้างซ้ายจะต้องทับกับด้านล่างของ C ข้างขวาเสมอ ถ้าก็อปเกรด คือโป๊ะตรงนี้เยอะ แต่ถ้าเกรดมิลเลอร์ก็จะเก่งกว่าตรงที่ทับเหมือนกันเลย วิธีคือให้ดูจากทรงของตัว C ของแท้จะแบนและคม แต่ของปลอมจะนูนกลมไม่ค่อยคม
จุดที่ 2 ถุงผ้ากันฝุ่น
ตรงกระเป๋าผ้านี้หลุดกันหมด ของก็อปจะดูออกง่ายเลยว่าก็อป เพราะของแท้จะต้องมีคำว่า CHANEL ฟอนต์ตัวหนาสีขาว อยู่กลางถุงผ้าเท่านั้น ของปลอมบางทีจะไม่ใส่ตัวอักษรมา หรือใส่มาบางทีก็ฟอนต์ไม่ตรง สังเกตไม่ยากเลยทีเดียว
จุดที่ 3 ซิปกระเป๋า
ซิปของกระเป๋า CHANEL จะใช้ของ Lampo กับ YKK สามารถเห็นได้บ่อย ๆ แต่ถ้าไม่ใช่ 2 อันนี้ก็จะมี OPTI DMC, DMC ที่แท้แน่นอนจ้า แต่ถ้าไม่มีสัญลักษณ์ตรงซิปก็เบาใจได้ หากกระเป๋าใบนั้นเป็นรุ่น Vintage Chanel Bags ถ้านอกเหนือจากนี้ ก็ให้คาดกันไว้ก่อนเลยว่าอาจจะปลอม
จุดที่ 4 Serial Numbers
เลขซีเรียลนัมเบอร์ของกระเป๋าชาแนล จะบอกถึงปีที่ผลิต ปกติแล้วตัวเลขจะมีแค่ 7-8 หลัก มากกว่านี้คือปลอมไม่เนียน ถ้าผลิตในปี 1986-1999 จะเป็นเลข 7 หลัก หลังจาก 2000 เป็นต้นไปใช้เลข 8 หลัก
จุดที่ 5 สายโซ่สะพาย
สายแท้จะหนักเพราะเป็นโซ่โลหะ และทั้งสายจะเป็นเส้นเดียวกันหมดเลยและต้องไม่มีรอยเชื่อม ส่วนตัวสายหนังที่คล้องกับโซ่ไปมา ก็จะมีแค่เส้นเดียวไม่หนามาก ส่วนใหญ่ของปลอมจะมีการทบกัน ทำให้เห็นเป็นสองชั้น ซึ่งถ้าเห็นว่าหนา ๆ เหมือนสายโซ่อันบนในภาพเมื่อไรคือของปลอมแน่นอน
LOUIS VUITTON
จุดที่ 1 ผิววัสดุของกระเป๋า
ภายนอกของกระเป๋าหลุยส์วิตตองจะเป็นผ้าใบแคนวาสที่ถูกเคลือบ และมีน้ำหนักเบา ทำให้ดูคล้ายหนังและดูเงางาม ต่อให้เก่าเป็นของมือสองเนื้อกระเป๋าก็ต้องไม่ดูด้าน ถ้าเจอแม่ค้าอ้างไม่เงาเพราะเก่าเก็บ ก็คือของปลอมทันที
จุดที่ 2 ลายตรงรอยต่อ
กระเป๋าหลุยส์จะใช้ความประณีตในการประกอบกระเป๋ามาก ๆ เพราะฉะนั้นด้านข้างของกระเป๋าตรงรอยต่อทุกส่วน การเย็บประกบจะต้องไม่ทำให้ลายฉีกหรือขาดครึ่ง ลายจะต้องสม่ำเสมอประกบกันพอดี เห็นเป็นรูปที่ชัดเจน
จุดที่ 3 หมุดกระเป๋า
หมุดกระเป๋า ต้องเป็นสีทองและต้องมีรอยปั๊มคำว่า Louis Vuitton ที่ดูตาเปล่าก็มองเห็นเสมอ หรือแม้แต่หลังหมุดก็เหมือนกัน ถ้ามีการลักไก่อย่างโผล่มาแค่คำว่า Louis หรือตัวอักษรตัวใดตัวหนึ่งหายไปคือของปลอม
จุดที่ 4 ซิป
อีกสิ่งหนึ่งที่ของปลอมไม่สามารถก็อปให้เหมือนเป๊ะได้ ก็คือความลื่นของซิบที่รูดได้โดยไม่ติดขัดหรือฝืด ต้องทนทานแม้มีการกระชากไปมาแรง ๆ ส่วนตัวซิปจะแบนเรียบสลักตัวอักษร LV ซ้อนกันและทำมาจากสเตนเลสแท้ สีทองไม่เข้มไม่อ่อนเกินไป
จุดที่ 5 Date Code
กระเป๋าหลุยส์ทุกใบจะต้องมี Date Code กำกับทุกใบ พิมพ์ด้วยฟอนต์หรู ๆ เป็นป้ายขนาดเล็กอยู่ด้านในตัวกระเป๋า ในป้ายจะประกอบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัว ที่บอกถึงประเทศที่ผลิต และเลข 4 ตัวคือวันเดือนปีที่ผลิต ถ้าไม่มีก็เสียใจด้วยค่าา
HERMÈS
จุดที่ 1 ตราปั๊ม
ที่กระเป๋าด้านหน้าจะปั๊มคำว่า HERMÈS PARIS MADE IN FRANCE ไว้บนหนังกระเป๋า และตัวหนังสือต้องไม่ยุบไปตามร่องของหนังกระเป๋า ถ้าเจอโลโก้ไม่สม่ำเสมอ เช่น ตกตามร่อง แล้วไม่อยู่ตรงกลางของกระเป๋าคือของปลอมนะ
จุดที่ 2 หูกระเป๋า
หูกระเป๋าของแอร์เมสจะตั้งตรงสวยงาม ทำมาจากหนังแท้เหมือนตัวกระเป๋าและเท่ากันทั้งสองข้าง ขณะที่วางพื้นอยู่จะไม่มีการเอียงไปมา หรือห้อยลงมา ในขณะที่แอร์เมสปลอมตรงหูกระเป๋าจะงอ ๆ ใช้ไปสักพักแล้วห้อยลงมาเพราะคุณภาพหนังไม่ดีนั่นเอง
จุดที่ 3 หัวซิป
บอกเลยว่าหัวซิปนี่แหละปลอมเก่งแค่ไหนก็หลอกกันไม่ได้ โดยกระเป๋าแอร์เมสของแท้ที่หัวซิปจะต้องมีสลักคำว่า HERMÈS ลงบนหัวซิป ของปลอมก็อาจมีมาให้เห็นบ้างแต่ตัวหนังสือ จะไม่ชัด และของปลอมบางทีหัวซิปก็ทำมาจากพลาสติกก๊องแก๊ง
จุดที่ 4 ที่คล้องกุญแจ
ที่คล้องกุญแจ หรือ Clochette จะทำมาจากหนังแท้แบบเดียวกับกระเป๋าค่ะ เป็นสองแผ่นประกบกันมาพร้อมกับถุงกันฝุ่นขนาดเล็ก ไม่มีการมั่วนิ่มเอาหนังหนา ๆ แผ่นเดียวมาห้อยเฉย ๆ
จุดที่ 5 โลโก้บนถุงกันฝุ่น
ถุงกันฝุ่นใบเล็ก ๆ ที่ไว้ใส่อะไหล่อย่างที่คล้องกุญแจ โลโก้ที่พิมพ์ลงบนผ้าจะต้องสีเดียวกันกับเชือกคล้องกระเป๋าเท่านั้น เป็นเฉดเดียวกัน และความเข้มเท่ากัน ไม่อ่อนกว่าหรือเข้มกว่า
วิธีเช็คกระเป๋าแท้ PRADA
จุดที่ 1 โลโก้
จุดนี้ของปลอมจะโป๊ะบ่อยสุด เพราะโลโก้ตรงตัวอักษร R สังเกตดี ๆ ของแท้ขาขวาของตัว R จะโค้งตวัดขึ้นเล็กน้อย ถ้าเป็นของปลอมขาขวาตัว R จะเป็นเส้นตรงไม่มีเส้นโค้งให้เห็นว่าตวัดขึ้น
จุดที่ 2 ป้ายโลโก้ด้านในของกระเป๋า
เมื่อหากลองเปิดกระเป๋าข้างใน กระเป๋าจะต้องมีป้ายโลโก้อยู่ด้านใน ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมไม่ใช่สามเหลี่ยม โดยสีของป้ายโลโก้จะต้องเป็นสีเดียวกับผ้าด้านใน ถ้าผ้าเป็นสีครีมตัวป้ายก็ควรจะเป็นสีครีมเหมือนกัน ถ้าป้ายเป็นคนละสีหรือไม่มีป้ายเลยก็ปลอมแน่นอน
จุดที่ 3 ยี่ห้อซิป
กระเป๋าของแบรนด์ Prada จะใช้ซิปแค่ยี่ห้อ Lampo Ykk Riri Opti หรือ Ipi เท่านั้น นอกเหนือจากนี้คือไม่ใช่ของแท้ เพราะจะมีตัวอักษรจะถูกสลักไว้ที่ด้านหลังของซิปทุกอัน แต่ของปลอมบางใบก็เริ่มเนียนสลักกับเขาบ้างแล้ว ต้องเช็กที่ตัวสะกดให้ดี เพราะถ้าเป็นของปลอมตัวสะกดจะไม่ครบหรือเปลี่ยนเป็นตัวอื่น
จุดที่ 4 ชิ้นส่วนโลหะ
อะไหล่ที่เป็นชิ้นส่วนโลหะบนกระเป๋าทุกชิ้นจะมีคำว่า Prada Milano เสมอ ตั้งแต่หัวสายรัด ซิป ตัวล็อก หมุดโลหะใต้กระเป๋า หรือส่วนอื่นที่ตกแต่งเพิ่มเติมก็ต้องมีเหมือนกัน
จุดที่ 5 ใช้ด้ายเย็บทั้งใบ
ของแท้ต้องประกอบด้วยการเย็บทุกใบ เป็นงานละเอียดที่ไม่มีการใช้กาวแปะ สักเกตได้จากรอยต่อทุกบริเวณของกระเป๋า ต้องไม่มีคราบกาวโผล่มาให้เห็นเด็ดขาดจ้า ยิ่งโลโก้หน้ากระเป๋าดูจากขอบค่ะ ของปลอมอาจซุกคราบกาวไว้อยู่ เลียนแบบยาก
วิธีเช็คกระเป๋าแท้ GUCCI
จุดที่ 1 สีของอะไหล่
อะไหล่ของกระเป๋าแท้จะเป็นสีทองแมตต์ ที่มีความเงาเล็กน้อย และเป็นทองนวล ๆ แต่ของปลอมจะเป็นทองเงาวิ้งเล่นแสงเก่งจนเกินไป สะท้อนเก่งจนใช้แทนกระจกยังได้เลย อันนี้ดูไม่ยากเลยแน่นอน เพราะของปลอมทำบ่อยมาก
จุดที่ 2 ผ้าซับด้านในกระเป๋า
วัสดุที่ใช้ทำผ้าด้านในของกระเป๋ากุชชี่จะทำมาจากไหมแท้ ๆ ที่ให้ความสัมผัสที่นุ่มลื่น ไม่สาก ผ้าไหมเป็นวัสดุที่ใช้ต้นทุนสูงมาก ดังนั้นของปลอมจะเอาผ้าธรรมดามาใช้แทน ทำให้สัมผัสไม่นุ่ม หรือรู้สึกหยาบ
จุดที่ 3 ป้ายด้านในกระเป๋า
เดี๋ยวนี้กระเป๋าปลอมเขาก็เริ่มทำป้ายด้านในออกมาบ้างแล้ว แต่สิ่งนึงที่ทำตามไม่ได้คือ Model Number หลังป้าย ซึ่งจะมีตัวเลข 4-6 หลัก และของแท้ขอบของป้ายจะต้องเหลี่ยมมีมุมชัดเจน ของปลอมขอบป้ายจะมนกว่า
จุดที่ 4 ด้ายกับการเย็บ
กระเป๋ากุชชี่ นับว่าเป็นแบรนด์เนมแบรนด์หนึ่งที่มีของก็อปเกลื่อนกลาดมาก และที่ปลอมกันพลาดแทบจะทุกใบคือด้ายที่เย็บกระเป๋า ของแท้จะไม่มีด้ายรุ่ยออกมาให้เห็น และปลายด้ายจะเย็บเอียงนิด ๆ ส่วนของปลอมลองเอาเล็บเขี่ยดูจะเห็นว่าเย็บไม่ดี รุ่ยง่ายด้วย และเป็นด้ายเส้นตรง ๆ ไม่เอียง
จุดที่ 5 ไม่มีคราบสนิม
ชิ้นส่วนโลหะเคลือบทองที่ใช้ทำเป็นอะไหล่ของกระเป๋าแท้ จะต้องไม่มีรอยลอกหรือคราบสนิมขึ้น ซึ่งจะต่างจากของปลอมที่เป็นโลหะเกรดต่ำแล้วเอามาพ่นสีทอง โดนขูดนิดหน่อยก็ถลอกเรียบร้อย
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : แทงบอลออนไลน์
ติดตามเว็บไซต์น่าติดตามเพิ่มเติมได้ที่ >> เว็บดูบอลสดฟรี
บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ >> Yohji Yamamoto